วันที่ 20 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.วิญญู ปัญญาวีรภรณ์ ร้อยเวร สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งจากกู้ภัยอรัญประเทศ ว่า พบศพผู้หญิงถูกฆ่าตาย คนร้ายหมกศพไว้ในป่าอ้อย บ้านหนองหญ้าปล้อง ม.4 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังได้รับแจ้ง จึงได้รีบเดินทางเข้าไปยังที่เกิดเหตุ ร่วมกับฝ่ายสืบสวน
หลังแพทย์ได้เดินทางมาถึง จึงได้เข้าไปยังจุดที่พบศพ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เสกสรร วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.คลองลึก ในที่เกิดเหตุ พบศพนางนิ่ม (นามสมมติ) อายุ 74 ปี อยู่ ม.4 ต.ป่าไร่ สภาพศพ นอนคว่ำหน้า เสื้อยืดถูกถอดออก เหลือแต่เสื้อยกทรง ส่วนท่อนล่างมีเพียงกางเกงในสวมอยู่เพียงอย่างเดียว ส่วนกางเกงขายาวสีดำของผู้ตายถูกถอดออกมากองไว้ที่ปลายเท้า ห่างจากศพ 2 เมตร ที่ศีรษะของผู้ตายมีรอยคล้ายถูกลูกกระสุนปืน เจาะเป็นรู ส่วนที่ขามีลักษณะคล้ายถูกตีจนขาผิดรูป ลักษณะคล้ายถูกฆ่าอย่างทารุณ แพทย์ระบุตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 วัน หลังตรวจชันสูตรพลิกศพแล้ว พนักงานสอบสวนได้ส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช โดยสภาพศพและสภาพแวดล้อมที่พบคล้ายมีการข่มขืนเหยื่อ โดยต้องรอเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์ให้ชัดเจนอีกครั้ง
ขณะที่ลูกสาวของผู้ตาย อายุ 41 ปี เล่าว่า แม่ของตนแต่งงานอยู่กินกับพ่อเลี้ยงชาวไทย มากว่า 20 ปีแล้ว ปัจจุบันสามีของแม่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนตนเองก็ได้แต่งงานอยู่กินกับสามีคนไทย และทำมาหากินอยู่ที่หมู่บ้านหนองหญ้าปล้องมาโดยตลอด
นางเหลน บอกด้วยว่า ก่อนแม่จะหายตัวไป พร้อมกับเพื่อนบ้านซึ่งเป็นชาวเขมรเหมือนกัน แม่ตนเองได้ใส่สร้อยคอทองคำ 2 เส้น เส้นหนึ่งหนัก 1 บาท ตุ้มหูทองคำอีก 1 คู่ และแหวนทองคำอีก 1 วง และมีเงินสดติดตัวอีก 5,000 กว่าบาท สอบถามสามีชาวไทย ของเขมรเพื่อนบ้านที่หายตัวไปอ้างว่าเมียตนเองข้ามไปเยี่ยมพ่อป่วยในฝั่ง เขมร แต่เพื่อนบ้านกลับไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย
โดยผู้ตายค่อนข้างมีฐานะมีเงินเข้าขั้นเศรษฐินีในพื้นที่ เนื่องจากมาได้สามีเป็นคนไทย และมีที่ดินทำไร่อ้อยด้วย
ที่มา :http://www.khaosod.co.th/
